Когда новое поколение любит побыть в одиночестве, Solo Economic

เมื่อคนรุ่นใหม่ชอบอยู่คนเดียว Solo Economy  
นักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือที่มักจะเรียกกันสั้นๆว่า “สภาพัฒน์ฯ” รายงานว่าคนรุ่นใหม่นิยมเป็นโสดนำไปสู่ครอบครัวคนเดียว และ Euromonitor รายงานว่าในปี 2012 มีประมาณ 6.4% และเพิ่มขึ้นเป็น 26.1% หรือประมาณ 7 ล้านคนในปี 2022 หรือคิดเป้น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดเลยทีเดียว 

โดยสถาพัฒณ์ได้ให้ความเห็นว่าคนกลุ่มนี้กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Solo Economy ตัวอย่างเช่น 

• การพัฒนาอสังหาแนวสูง ที่คนกลุ่มนี้เป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 24% ในปี 2022 

• การใช้จ่ายเพื่อคลายเหงาของคนโสด โดยคนกลุ่มนี้จะใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวและการสื่อคิดเป็นประมาณ 27.6% ของรายจ่ายทั้งหมดเลยทีเดียว นอกจากนี้อีกกว่า 270,000 คนเลี้ยงสัตว์หรือปลูกพืชแก้เหงา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2019 ถึงประมาณ 32.9% 

• ครอบครัวคนเดียวท่องเที่ยวประมาณ 400,000 ทริปในปี 2019 ก่อนที่จะตกลงไปในช่วงโควิดและฟื้นกลับมากเป็น 210,000 ในปี 2021 

• ครอบครัวคนเดียวประมาณ 68.8% ซื้อประกันชีวิต/ประกันภัย  

สภาพัฒน์ฯยังมองด้วยว่าปัจจุบันสภาพสิ่งแวดล้อมและสังคมของไทยยังไม่เอื้อต่อการอยู่คนเดียวเท่าไหร่นัก และ 1 ใน 3 ของ ครอบครัวคนเดียวก็เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีทำให้มีความเสี่ยงในปัญหาเรื่องความปลอดภัย จึงจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องยกระดับ Solo Economy ให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษกิจอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป  

ตัวอย่างนึงที่เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์คือกระแสคอนโดเลี้ยงสัตว์ Pet Friendly โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาทในปี 2021 ทำให้มีผู้พัฒนาอสังหาฯที่จับกระแสตรงนี้และเปิดโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ นำมาโดย Origin ที่ทุ่ม 8 โครงการในปี 2024  เครือ Major เปิดทุกโครงการให้เลี้ยวสัตว์ได้ ตามมาด้วย Assetwise, MDQC, SC Asset, Siamese และ Noble ต่างก็มีโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์นอกจากนี้ SC Asset เองก็เปิดตัวบ้านสำหรับคนโสดภายใต้โครงการ  

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม เผยว่า ปัจจุบันคอนโดเลี้ยงสัตว์ในไทย มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท และโตเฉลี่ยปีละ 15% จากเทรนด์ Pets Family ของคนเจน Y – Z ที่รักอิสระ ไม่นิยมมีลูก และมองหาไลฟ์สไตล์ด้านอื่น ๆ แทน 

อาจกล่าวได้ว่าภาพสังคมที่กำลังเปลี่ยนทั้งโลก ไม่เฉพาะประเทศไทยทำวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ในวันนี้เริ่มเปลี่ยนและในอนาคตคงไม่แปลกหากคนส่วนใหญ่จะไม่มีครอบครัวกัน จึงเป็นโจทย์สำหรับทุกธุรกิจที่จะต้องปรับตัวต่อไป 

ที่มา :

https://www.nesdc.go.th 

https://www.euromonitor.com/thailand 

https://moneyandbanking.co.th/ 

https://www.thairath.co.th 

https://www.nationthailand.com/