สำหรับใครที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดแน่นอนว่าต้องมีความพร้อมในการจ่ายชำระตามกำหนด ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต่างก็ต้องลุ้นระทึกในการจะซื้อคอนโดอยู่พอสมควรว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ไหม หลายคนอาจผิดหวังหากทางธนาคารไม่ปล่อยกู้สินเชื่อ ไม่ให้วงเงินตามที่ต้องการทำให้โครงการบ้านในฝันของหลายๆ คนสะดุดไป
ซึ่งสาเหตุที่ธนาคารจะพิจารณาการปล่อยกู้สินเชื่อนั้นมีอยู่หลายประการ วันนี้เราได้รวบรวมสาเหตุหลักๆ ที่เสี่ยงทำให้ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อเพื่อนำไปเตรียมตัวและพร้อมรับมือ มีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ
เป็นหนี้บัตรเครดิต
เป็นสาเหตุหลักที่ทางธนาคารนำไปพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งจำนวนหนี้ของบัตรเครดิตจะนำมาคิดรวมกับสินเชื่อในการปล่อยกู้ด้วย ซึ่งหากเป็นหนี้บัตรเครดิตเกินกว่า 40% ขั้นไป จะมีโอกาสสูงที่ทางธนาคารจะปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อให้ ซึ่งถ้าหากประวัติในการชำระหนี้ที่ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อาจทำให้เครดิตเสียและเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่ธนาคารจะปล่อยกู้สินเชื่อ แต่ทางแก้นั่นก็คือการวางเงินดาวน์ที่มีจำนวนมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะโดนปฏิเสธสินเชื่อนั่นเอง
ไม่มีเงินออม
นอกจากเครดิตหรือประวัติการชำระหนี้ที่ธนาคารนำไปพิจารณาแล้ว เงินออม ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทางธนาคารจะถามหาและนำไปเป็นข้อพิจารณาอีกเช่นกัน ซึ่งถ้าหากเรามีเงินออมไม่มากพอและหากเรากู้คอนโดที่มีราคาสูง หากทางธนาคารพิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสมกับรายได้ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนปฏิเสธสินเชื่อได้ แต่ยังมีอีกหลายๆ กรณีที่มีรายได้ที่สูงเหมาะสมกับจำนวนเงินที่กู้แต่ไม่มีเงินออม ทางธนาคารอาจมีการสอบถามข้อมูลการออมเงินเพิ่มเติมเพื่อนำไปพิจารณาต่อได้ครับ
ฐานเงินเดือนไม่มั่นคง
เงินเดือนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยอันดับแรกๆ ที่ธนาคารจะนำไปพิจารณาในการปล่อยกู้สินเชื่อ ซึ่งถ้าหากมีรายได้ไม่แน่นอนธนาคารจะมองว่าไม่สามารถชำระค่างวดได้ตามที่กำหนด มีโอกาสสูงที่จะโดนปฏิเสธสินเชื่อได้ ซึ่งทางแก้ไขในข้อนี้นั่นก็คือ ควรมีรายได้ที่สม่ำเสมอทุกๆ เดือน อย่างน้อยควรมีรายได้สม่ำเสมอติดต่อกัน 6 เดือน โดยปกติแล้วธนาคารจะกำหนดค่างวดประมาณ 25-30% ของรายได้ต่อเดือน แต่ถ้าหากไม่เพียงพออีกทางหนึ่งก็สามารถยื่นขอกู้ร่วมซื้อคอนโดได้นั่นเอง
ติดผ่อนทรัพย์สินบางอย่างอยู่
แน่นอนว่าการติดผ่อนทรัพย์สินบางอย่างอยู่เช่น ผ่อนรถ จะถูกธนาคารนำมาพิจารณาเป็นรายจ่ายต่อเดือน ซึ่งถ้าหากมีรายจ่ายเกินกว่า 40% ของรายได้ก็มีโอกาสสูงที่ธนาคารจะไม่อนุมัติสินเชื่อได้ แต่หากรายจ่ายต่ำกว่านั้น จะถูกนำไปหักจากรายได้ทำให้ขอกู้สินเชื่อได้ไม่เต็มวงเงิน หากไม่สามารถจัดการหนี้ได้ทั้งหมดเราสามารถรีไฟแนนซ์เพื่อให้จำนวนชำระค่างวดต่อเดือนลดลงได้
ธนาคารไม่คิดรายได้ทั้งหมด
แต่ละธนาคารจะมีเกณท์การพิจารณาปล่อยกู้สินเชื่อแตกต่างกันออกไป รวมถึงการบางธนาคารจะคิดรายได้ไม่เหมือนกัน บางธนาคารอาจพิจารณาแค่รายได้ต่อเดือนว่าเหมาะสมกับจำนวนเงินที่ต้องการจะกู้หรือไม่ หรืออีกธนาคารหนึ่งอาจจะนำค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ฯลฯ แล้วคิดเป็นเปอร์เซ็น นี่เป้นอีกหนึ่งสาเหตุที่บางธนาคารปกฺเสธการปล่อยกู้สินเชื่อนั่นเอง
มีปัญหาจากผู้กู้ร่วม
หากตัวผู้กู้เองมีประวัติที่ดีสามารถกู้ได้ผ่านแบบไม่มีปัญหา แต่กลับกันถ้าหากผู้กู้ร่วมติดเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่ผ่านการพิจารณา หรือไม่ใช่ญาติที่เป็นสายเลือดเดียวกัน , สามีภรรยากัน ทางธนาคารอาจปฏิเสธการให้สินเชื่อได้ ซึ่งทางออกนั่นก็คือผู้กู้สามารถหาผู้อื่นมาเป็นผู้กู้ร่วมแทนได้นั่นเอง
ไม่เคยมีประวัติการชำระหนี้
อีกหนึ่งข้อที่ธนาคารจะนำมาพิจารณานั่นก็คือประวัติการชำระหนี้นั่นเอง หากผู้กู้ไม่เคยมีประวัติการชำระหนี้ทรัพย์สินอะไรมาก่อนเลยทางธนาคารอาจจะปฏิเสธการให้สินเชื่อได้ เนื่องจากทางธนาคารไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้กู้มีวินัยในการผ่อนชำระได้ดีแค่ไหน ธนาคารจะไม่สามารถเช็คประวัติเครดิตบูโรได้จึงเสี่ยงต่อการไม่ชำระค่างวดตามกำหนดได้ ซึ่งทางแก้ก็คือการสร้างวินัยทางการเงินที่ดีเพื่อสร้างประวัติในการ
📍𝗦𝗔𝗟𝗘 𝗢𝗙𝗙 𝗨𝗣 𝗧𝗢 𝟱𝟬%
𝗕𝗥 𝗔𝗚𝗘𝗡𝗧 จัดให้ช้อป 𝙊𝙉𝙇𝙄𝙉𝙀 แบบจุกๆ
กับคอนโดทำเลดี 4 ย่านสุดฮอต
✊️ ช้าหมดอด ต้องรีบจอง! ✊️
✅ 𝐒𝐮𝐤𝐡𝐮𝐦𝐯𝐢𝐭
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3ny5Qc6
✅ 𝐒𝐚𝐭𝐡𝐨𝐫𝐧
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/34FkqWk
✅ 𝐏𝐡𝐚𝐲𝐚𝐭𝐡𝐚𝐢
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/2GDkdLi
✅ รัชดา
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3d9x17Y
📍 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ ทุกสัปดาห์ได้ที่
✅LINE@ : https://bit.ly/2TsKemK
✅Facebook : https://bit.ly/3p4NVuP
✅Instagram : https://bit.ly/3q6B7Xk
✅Twitter : https://bit.ly/3nTJOBy
✅Blockdit : https://bit.ly/3wAfv8O
✅Website : https://bit.ly/35oRzGw