เทรนด์ของที่อยู่อาศัยแบบ smart ไม่ใช่คำถามว่าจะมาจริงหรือไม่ แต่คือจะมาเมื่อไหร่ เมื่อเทคโนโลยีช่วยตอบสนองความต้องการขอนุษย์ได้ ดังนั้นเทคโนโลยีย่อมก้าวเข้ามาเป็นส่วนนึง แม้แต่ในเรื่องที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าแทบจะทุกอย่างจะมีแบบที่เป็น “อัจฉริยะ” หรือ “Smart” เข้ามา ไล่เรียงมาตั้งแต่ Smart TV, Smart washing machine, Smart Air Conditioner ไปจนถึง Smart Light แต่นั่นไม่เรื่องใหม่อะไรซักเท่าไหร่ เพราะก็มีกันมาซักพักแต่สิ่งที่จะเป็นจุดเปลี่ยนคือเทคโนโลยี AI
ลองนึกถึงวันหยุดปกติที่คุณภรรยาตะโกนบอกคุณสามีว่า “เอาผ้าไปซักด้วย แล้วอย่าลืมล้างจานละ” ต่อไปตัวช่วยที่จะเข้ามาคือ AI ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก อยากให้ลองไปคุยอะไรก็ได้ กับ ChatGPT (คุยอะไรก็ได้จริงๆ ได้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้) ที่นี้ลองนึกภาพว่าถ้าคุยกันรู้เรื่องขนาดนี้ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นแบบ Smart หมดแล้วเราคงคุยผ่าน AI แล้วให้คุณภรรยาไปสั่ง AI แทนสั่งคุณสามี แน่นอนเรื่องนี้กำลังกลายเป็นความจริง
นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่เป็นไปได้เมื่ออุปกรณ์ Smart ได้รับพลังของ AI
1. ระบบรักษาความปลอดภัย
• กล้อง ที่นอกจากจะ “เห็น” แล้วยังสามารถจำแนกสิ่งต่างๆและรายงานไปที่คุณได้อย่างแม่นยำ “รณกรณ์เพื่อนที่ทำงานกำลังยืนรอคุณอยู่ที่หน้าประตู” , “พบเห็นเพื่อนบ้านโกยขยะมาไว้หน้าบ้านเมื่อ 6.19 น.” หรือจำแนกและเตือนเฉพาะคนแปลกหน้าให้คุณทราบ
• เซ็นเซอร์ ที่ตรวจจับได้ทุกอย่างและเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้คุณ “เราตรวจจับเจอการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวตแปลกปลอมบริเวณบนฝ้า คาดว่าจะเป็นหนู”
2. Integrated Smart Control (ระบบควบคุมแบบศูนย์รวม)
• AI ที่จะทำการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า Smart ทุกอย่างให้คุณได้ด้วยประโยคเดียว
• อยากสั่งการอะไร คุยกับเค้า AI คนเดียวได้เลยไม่ต้องสั่งผ่านหลายแอป
3. ให้ AI จัดการระบบพลังงานให้คุณ
• ไม่ต้องปิด-เปิดไฟ เพราะ AI ทำให้และไม่ลิม
• ไม่ต้องปรับความเย็น ปิดหรือเปิดแอร์เพราะว่า AI จะเรียนร็พฤติกรรมของคุณและปรับทุกอย่างให้ในแบบที่คุณชอบ
• AI ที่จะถามคุณว่า “ผมเห็นตุณหลับหน้าทีวีบ่อยครั้ง เมื่อคุณหลับไปโดยไม่รู้ตัวจะให้ผมช่วยปิดทีวีและหรี่ไฟให้ไหม”
1.เทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
IoT หรือ internet of things ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในขณะนี้การจะ setup ระบบนึ้นมาใช้เองทั้งหมดอาจะยุ่งยากเกินไปสำหรับหลายๆคน แต่หากอนาคตเทคโนโลยีพัฒนาไป มีตัวช่วยที่ฉลาดขึ้น และตัวผู้เองคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น การจะ setup ระบบ IoT ใช้เองอาจจะง่ายเหมือนซื้อทีวีมาเสียบปลั๊กใช้งานได้เลย หากวันนั้นมาถึงการเข้าถึเทคโนโลยี่จะง่ายขึ้นอย่างก้าวกระโดดและจะนำมาซึ่งมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิต
2.ทำประโยชน์ได้มากขึ้น
ถึงแม้ปัจจุบันเราจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ smart กันได้แทบทุกอย่างแล้ว Smart Air conditioner ที่ระบบตรวจจับคามเคลือนไหวที่จะเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติ, Smart Camera ที่จะบันทึกภาพและแจ้งเตือนผ่านมือถือไปยังเจ้าของเมื่อพบสิ่งปกติ หรือแม้แต่ Smart Refrigerator ที่จะเปิดเพลงโปรดให้คุณฟังตอนที่ยืนทำครัว แต่ประโยชน์เหล่านี้อาจจะฟังดูยังไม่ “ว้าว” สำหรับหลายๆคน แต่การเข้ามาของ AI ดังที่กล่าวมาที่เข้ามาเป็นตัวกลางเชื่อมและควบคุมระบบต่างๆที่กล่าวมาจะเป็นจุดที่ทำให้หลายๆคนรู้สึก “ว้าว” ขึ้นมาและรู้สึกว่าเป็นประโยน์จริงๆ
มาตรฐานใหม่ในการดำรงค์ชีวิต
คนเราย่อมรักความสบาย คุณก็เช่นกันหากในอนาคตเมื่อคุณมีเทคโนโลยี่ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเป็นประโยน์อย่างมากผู้คนก็จะเริ่มคุ้นเคยกับการชี้วิตที่สะดวกสะบายและนึกไม่ออกว่าจะกลับไปชีวิตโดยไม่มีเทคโนโลยีเหล่าน้นไม่ออก หากยังไม่เห็นภาพลองนึกถึงตอนนี้ที่ ถ้าให้อยู่โดยไม่มีมือถือซัก 3 วัน หรือไม่มีอินเตอร์เน็ทซักอาทิตย์คุณจะอยู่ได้หรือไม่และจะรู้สึกอย่างไร? ในอนาคตอีกไม่ไกลเกินรอคุณอาจจะไม่อยากอยู่บ้านที่ไม่มี AI จัดการทุกอย่างให้อีกต่อไป
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มันกำลังเริ่มแล้ว
JoshAI คือ generative AI เหมือน ChatGPT แต่พัฒนามาสำหรับ smart home โดยเฉพาะ “เปิดเพลง jazz , ช่วยหรี่ไฟและอย่าลืมปลุกฉันตอน 6.00 ด้วยนะพรุ่งนี้” คือตัวอย่างสิ่งที่คุณทำได้ด้วย JoshAI และ Josh ยังจะได้ด้วยว่าคุณชอบเปิดผ้าม่านตอนบ่ายๆวันอาทิตย์ และ Josh ก็ทำให้คุณอัตโนมัติโดยไม่ต้องสั่ง และนั่นเป็นแค่เพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆที่ Josh ทำได้ และนั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น.....
สุดท้ายนี้ในขณะที่เทคโนโลยีต่างๆยังคงก้าวต่อไปเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ และหากตอนนี้คุณต้องการบ้านหรือคอนโด ที่ BR ของเรามี agent ที่มากประสบการณ์ ที่เข้าใจความต้องการของคุณ และพร้อมจะช่วยให้การหาบ้านหรือคอนโดของคุณง่ายและสะดวกที่สุด
THE BANGKOK RESIDENCE
"Real Estate for Happiness"
Contact us now
Call Center : 1319
Line @bkkresidence